บริษัท บี.กริม แคเรียร์(ประเทศไทย) จำกัด

   บริษัท บี.กริม แคเรียร์(ประเทศไทย) จำกัด  ต่อจากนี้ เรียกว่า “บริษัทฯ” ตระหนักถึงความสำคัญและหน้าที่ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 โดยให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว และมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของทุกท่านให้มีความปลอดภัย นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ให้ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือผู้รับบริการต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อแจ้งและอธิบายให้ทราบว่า บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร ข้อมูลใดบ้างที่บริษัทฯ จัดเก็บ มีวัตถุประสงค์ใดในการประมวลผลข้อมูล มีการเปิดเผยข้อมูลของท่านอย่างไร มีมาตรการในการรักษาปกป้องข้อมูลของท่านอย่างไร รวมถึงสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. นโยบายนี้มีผลบังคับใช้กับใครบ้าง
  •   นโยบายนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือผู้รับบริการต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น ผู้แทนขาย ลูกค้าปัจจุบัน รวมถึงบุคคลใดๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทฯ ตัวอย่างเช่น บุคคลอ้างอิง หรือบุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
  1. ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง
  • 2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถืงแก่กรรม ตัวอย่างเช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น
  • 2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ เช่น เชื้อชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) หรือข้อมูลอื่นใดในทำนองเดียวกันที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบริษัทฯ ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต

  •   กรณีบริษัทฯ ได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้า หรือบริษัทฯ นำข้อมูลของลูกค้าออกจากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยวิธีการทางกระดาษ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าที่สมัครใช้บริการ และ/หรือทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทฯ ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) บริษัทฯ ไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากลูกค้า ยกเว้นในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯ จะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติ และเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
  • 3.1 รายละเอียดส่วนบุคคลของท่าน หรือของบุคคลอื่น ที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงโดยท่าน
  • 3.2 ข้อมูลความน่าเชื่อถือ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสถานะความน่าเชื่อถือ (Credit standing) และ ผู้ให้บริษัทประเมินความน่าเชื่อถือกับบริษัท บิซิเนส ออนไลนส์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งใช้เพื่อการประเมินความน่าเชื่อถือ การบริหารความเสี่ยง และการทำแบบจำลองด้านเครดิต (Credit modelling)
  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
  • 4.1 บริษัทฯ จะรวบรวมข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้ขณะที่ท่านเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากับบริษัท การสมัครใช้บริการ หรือทำธุรกรรมออนไลน์ ไม่ว่าช่องทางใดๆ ก็ตาม และข้อมูลการร่วมกิจกรรมต่างๆ บนสื่อออนไลน์ของบริษัทฯ หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ท่านติดต่อกับบริษัทฯ หรือทีมงานของบริษัทฯ
  • 4.2 เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัทฯ ท่านขอยืนยันว่าท่านได้แจ้ง และได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล เพื่อการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ซึ่งจะถูกใช้ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ต่อไป
  1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  •   บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้
  • 5.1 การพิจารณาอนุมัติ และปฏิบัติตามสัญญาสินเชื่อทางการค้าระหว่างท่านกับบริษัทฯ ซึ่งหมายรวมถึงขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็น เช่น การติดต่อเพื่อเข้ารับเอกสารจากท่านสำหรับประกอบการพิจารณา และอนุมัติสินเชื่อ
  • 5.2 สร้าง ปรับปรุง จัดการ และส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการ ผลประโยชน์ และสิทธิพิเศษต่างๆ
  • 5.3 ให้การบริการของบริษัทฯ แก่ท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลธุรกรรมใดๆ ของท่าน
  • 5.4 ดำเนินการตามคำขอ ท่านเป็นผู้ยื่นคำร้องขอแก่บริษัทฯ เอง
  • 5.5 นำส่งใบแจ้งหนี้ จดหมาย และ/หรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหมายรวมถึงการนำส่งในรูปแบบสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ (SMS, Email)
  • 5.6 การติดตามทวงถามหนี้กรณีท่านผิดนัดชำระหนี้
  • 5.7 ปฏิบัติตามสัญญาการฟ้องร้องเมื่อผิดนัดชำระหนี้ที่ท่านเป็นผู้ทำกับบริษัทฯ
  • 5.8 ปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อบังคับของหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัทฯ
  • 5.9 ปกป้องผลประโยชน์โดยชอบของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การรักษาความปลอดภัยของสถานที่ และทรัพย์สิน การวิเคราะห์ข้อมูล การรับประกันคุณภาพของบริการ การตรวจสอบของผู้ตรวจสอบทั้งภายในและภายนอก การรักษาความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่าย และการบริหารสินเชื่อและความเสี่ยง
  • 5.10 การจัดการข้อร้องเรียนที่ท่านมีต่อบริษัทฯ
  • 5.11 ประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูล และใช้ข้อมูลเพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ หรือเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ และนำเสนอบริการ หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ของบริษัทฯ หรือเพื่อนำมาพัฒนา ปรับปรุง ด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
  • 5.12 เพื่อการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัทฯ ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของท่าน

  •   บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่าน กรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ขอความยินยอม หรือบริษัทฯ ไม่มีเหตุผลให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากท่านได้
  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  •   บริษัทฯ จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าจะมีสภาพเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ หรือการให้บริการอันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เท่านั้น โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลแก่
  • 6.1 คู่ค้าทางธุรกิจ ซึ่งอาจมีสถานะเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามการให้บริการแก่ท่าน
  • 6.2 ผู้ให้บริการ หมายถึง นิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา ที่บริษัทฯ พิจารณาแล้วว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการให้บริการแก่ท่าน ซึ่งผู้ให้บริการที่บริษัทฯ มีการใช้บริการอยู่ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ ผู้ให้บริการจัดเก็บเอกสาร ผู้ให้บริการจัดพิมพ์เอกสาร ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร เป็นต้น
  • 6.3 หน่วยงาน หรือ บุคคลอื่นใด ที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด สถานีตำรวจ ศาล กรมบังคับคดี บริษัทบริหารสินทรัพย์ (คลินิกแก้หนี้) และหน่วยงานอื่นๆ ที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องนำส่งข้อมูลตามกฎหมาย
  1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
  •   บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ ส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้รับข้อมูลอื่น เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจัดเก็บไว้บน Server หรือ Cloud ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาให้มั่นใจได้ว่าประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด
  1. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  •   บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อการใช้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ และเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และการกำกับดูแล เช่น กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ให้บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดสัญญากับบริษัทฯ เว้นแต่บริษัทฯ ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรืออยู่ระหว่างกระบวนการตามกฎหมาย จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ทั้งนี้หากบริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป บริษัทฯ จะลบข้อมูลนั้นออกจากระบบ และ/หรือดำเนินการให้ข้อมูลนั้นกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้ตัวบุคคล เพื่อที่ท่านจะไม่สามารถถูกบ่งชี้ตัวตนจากข้อมูลนั้นได้อีกต่อไป ทั้งนี้ภายใต้ภาระหน้าที่การดำรงข้อมูลไว้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  1. บริษัทฯ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
  •   บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจำเป็น และเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทฯ กำหนด
  1. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
  •   สิทธิในส่วนนี้หมายถึงสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านอาจขอใช้สิทธิเหล่านี้กับบริษัทฯ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัทฯ
  • 10.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
  •   หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา และสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

  • 10.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
  •   ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯ

  • 10.3 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
  •   ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

  • 10.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
  •   ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่กรณี นอกจากนี้ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย

  • 10.5 สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
  •   ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูล

  • 10.6 สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
  •   ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้องขอใช้สิทธิแก้ไขหรือขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือกรณีที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน

  • 10.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
  •   ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยท่านสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขั้นตอนของบริษัทฯ

  • 10.8 สิทธิร้องเรียน
  •   ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  •   การใช้สิทธิของท่านตามข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่านได้ เช่น บริษัทฯ จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการใช้สิทธินั้นๆ อาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทฯ จำเป็นต้องใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว โดยบริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ

  •   หากท่านต้องการใช้สิทธิตามข้างต้น ท่านสามารถยื่นคำขอมายังบริษัทฯ โดยคลิกที่ แบบคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  1. กิจกรรมทางการตลาด และการส่งเสริมการตลาด
  •   บริษัทฯ ใช้ข้อมูลบางอย่างของท่านเพื่อทำการตลาดที่ตรงตามความสนใจของท่าน เพื่อที่ท่านจะได้รับแจ้งเกี่ยวกับกิจกรรม ข้อเสนอการส่งเสริมการขาย ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ท่านอาจมีความสนใจ โดยท่านสามารถดำเนินการยกเลิกการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากทางบริษัทฯ ได้
  1. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  •   บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการประกาศข้อมูลลงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ
  1. ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  •   ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ เพื่อเสนอแนะ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่
  • บริษัท บี.กริม แคเรียร์(ประเทศไทย) จำกัด
  • ฝ่ายบัญชีและการเงิน
  • อาคาร อินเตอร์ลิงค์ทาวเวอร์ ชั้น 16 เลขที่ 1858/77-78 ถนนเทพรัตน กม4.5 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
  • โทรศัพท์ : 0 2-090-9992
  • อีเมล : kasemc@bgcarrier.co.th